top of page
CAFE คั่นหน้า_edited.jpg
KAWA

COFFEE SHOP @TRIPLEP
Junior Recital Project

    ปัจจุบันมีร้านกาแฟเกิดขึ้นมากมายภายในระยะเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดเทรนด์ตลาดกาแฟตามกระแสความนิยมของคนในประเทศมากขึ้น สังเกตได้จากจำนวนร้านกาแฟหรือร้านคาเฟ่ที่ผุดขึ้นมากมายราวกับดอกเห็ดภายในระยะเวลาอันสั้น แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เข้าใจได้ง่ายๆว่าผู้คนในประเทศมีการดื่มกาแฟกันมากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดที่ทำให้เกิดร้านกาแฟขึ้นมาได้ในยุคสมัยนี้ ปัจจัยหลักที่มีมาพร้อมๆกับการเกิดเครื่องดื่มที่เรียกว่า กาแฟ คือ รสชาติ กาแฟรสชาติดีการันตีฝีมือของบาริสต้า แต่กาแฟที่ดีคือเอกลักษณ์ของกาแฟที่ชอบ ร้านกาแฟที่ดีก็เช่นกัน
    ร้านกาแฟหรือร้านคาเฟ่ในปัจจุบันมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละร้าน โดยมีพื้นฐานมาจากความชอบหรือความต้องการของเจ้าของกิจการ ทำให้เกิดร้านกาแฟหลากหลายรูปแบบ เช่น ร้านกาแฟกับหนังสือ ร้านกาแฟกับมอเตอร์ไซค์ ร้านกาแฟกับเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์หรือแม้กระทั่งคนที่ชอบอยู่บ้านก็จัดบ้านตัวเองให้กลายเป็นโฮมคาเฟ่เองซะเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกร้านมีเหมือนกันคือ กาแฟ และ ดนตรี 

   - ทำไมต้องเป็นร้านกาแฟ?
แรงบันดาลใจแรกเริ่มเลย คือ ความชอบส่วนตัวของผู้จัดเอง ช่วงแรกไม่ได้เป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟ แต่แค่ชอบกลิ่นของกาแฟ (แต่ช่วงหลังๆ มาทำโปรเจคนี้ก็ติดกาแฟงอมแงม) เลยหยิบยกมาสามหัวข้อสำหรับสิ่งที่ชอบภายในร้านกาแฟและนำเอามาคิดเชื่อมโยงกับหัวข้อดนตรีว่ามีอะไรที่น่าสนใจที่อยากจะลองทำดูบ้างเลยได้ไอเดียแต่งเพลงในบรรยากาศร้านกาแฟที่ชอบดู ซึ่งก็ดูน่าสนุกและท้าทายดี แนวเพลงที่เลือกทำ คือ Acoustic Guitar โปรเจคนี้ถือเป็นการทดลองที่ท้าทายมาก เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นไม่เป็น แต่ก็รู้สึกดีที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ในระดับหนึ่ง

 

CAFE คั่นหน้า_edited.jpg

บรรยากาศภายในร้านกาแฟ

บาริสต้าทำหยดกาแฟ

กลิ่นหอมๆของกาแฟ
"แค่เพียงได้กลิ่นก็รู้สึกผ่อนคลาย"

มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโซลแห่งชาติเกาหลีใต้ ที่เผยว่า กลิ่นของกาแฟจะไปททำปฏิกิริยากับโปรตีนในสมองตัวที่เกี่ยวกับความเครียด โดยเฉพาะความเครียดที่เกิดจากการนอนไม่หลับ แค่ได้กลิ่นกาแฟก็จะผ่อนคลายลงได้

ดีไซน์ร้าน
"ถ้าหน้าร้านดูน่ารักและเป็นมิตรก็จะเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล"

 

การจัดการกับพื้นที่ภายในและภายนอกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้า สิ่งสำคัญคือจัดระยะห่างระหว่างสิ่งของภายในร้านให้เหมาะสมจะช่วยให้ร้านดูโปร่งและช่วยให้ลูกค้าที่นั่งรู้สึกไม่อึดอัด

ร้านกาแฟ.jpg
บันทึกการปั่น

เสียงเพลงในร้าน

"ร้านไหนเปิดเพลงเพราะๆก็จะปักหมุดเอาไว้ไปอีก"

หนึ่งปัจจัยหลักที่สามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับร้านได้ การันตีโดยงานวิจัยจากหลากหลายที่ หนึ่งในนั้นคือ งานวิจัยจาก Texas Tech University ที่พูดถึงการใช้เพลงแต่ละแนวจะมีผลกับลูกค้าแตกต่างกันออกไปและจะดึงดูดลูกค้าที่มีรสนิยมแบบเดียวกันกับเพลงที่เปิดในร้าน ก่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกดีเวลานั่งในร้านมากขึ้น

MUSIC & COFFEE SHOP

    ปัจจุบันเพลงที่เปิดในร้านกาแฟมีหลากหลายแนว แล้วแต่ความชอบหรือความตั้งใจของเจ้าของ

กิจการนั้นๆ แต่ถ้าจะพูดถึง Background Music ที่ใช้เปิดกันอย่างแพร่หลายนั้น ได้มีการศึกษาและวิจัยถึงแนวเพลงที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้านและแนวเพลงประเภทไหนที่จะดึงดูดลูกค้าได้ตรงตามเป้าหมายของผู้ประกอบการด้วย ซึ่งการตั้งคำถามของนักวิจัยเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการได้คำนึงถึงเพลงที่จะเปิดในร้านกันมากขึ้นและยังทำให้มีคนสร้างสรรค์บทเพลงที่ใช้เปิดเพื่อเป็น Background Music

ในร้านกาแฟมากขึ้นเช่นกัน

  - แล้วทำไมต้องเปิดเพลงในร้านกาแฟด้วยล่ะ?

    มีทฤษฎีและงานวิจัยหลายๆงานที่พูดถึงเรื่องดนตรีที่ส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่งนั่นคือส่วนหนึ่งของคำตอบ เพราะดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถสื่อสารอารมณ์ต่างๆให้ไปถึงคนฟังได้ง่ายกว่าคำพูด ดังนั้นจึงมีการใช้เสียงเพลงเป็นสื่อกลางเพื่อช่วยให้คนที่ฟังนั้นรู้สึกและอินไปกับบทเพลง

    แต่การเลือกใช้เพลงสำหรับร้านกาแฟส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นพิเศษกว่า นั่นคือ การเปิดเพลงที่เป็นลักษณะของ Background Music ส่วนใหญ่จะไม่มีเนื้อร้อง เป็นเพียงทำนองดนตรีที่ฟังง่าย สบายๆ เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกับลูกค้าที่นั่งอยู่ภายในร้าน เพราะร้านกาแฟในปัจจุบันถือเป็น Community Space ที่นิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ดังนั้น ในร้านก็จะมีทั้งกลุ่มที่มานั่งพบปะพูดคุยกันหรือมานั่งทำงาน การเปิดเพลงที่สามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับพื้นที่และไม่รบกวนกิจกรรมของกลุ่มคนเหล่านั้นจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เหตุผลนี้ตรงกับหนึ่งในแนวคิดของ Erik Satie นักประพันธ์และนักเปียโนชาวฝรั่งเศส ที่ได้ประพันธ์ดนตรีเพื่อประกอบบรรยากาศดินเนอร์หรือ Furniture Music ที่ชื่อว่า musique d'ameublement ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เขากล่าวถึงแนวคิดที่ประพันธ์ดนตรีนี้ขึ้นว่า "เป็นดนตรีที่เป็นส่วนหนึ่งกับเสียงอื่น ๆ ในสิ่งแวดล้อมนั้น ผมคิดถึงดนตรีที่มีความไพเราะ ช่วยลดเสียงอึกทึกของการกระทบกันของมีดและส้อมระหว่างดินเนอร์ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปควบคุมหรือแทนที่เสียงเหล่านั้น มันจะเข้าไปช่วยเติมช่องว่างของความเงียบระหว่างการสนทนาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อเพื่อนรับประทานดินเนอร์ด้วยกัน" [Erik Satie, Furniture Music 1917] และอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจ คือ แนวคิดของ Brian Eno ที่มีต่อ Ambient Music เขาได้กล่าวว่า "ดนตรีแอมเบียนต์จะต้องสามารถเข้ากันได้กับระดับความตั้งใจในการฟังดนตรีที่หลากหลายโดยไม่ได้เป็นสิ่งที่บังคับผู้ฟัง มันจึงเป็นดนตรีที่จะไม่ฟังก็ได้ พอ ๆ กับการเป็นดนตรีที่น่าสนใจ" [Brian Eno, Ambient Music 1973] และด้วยเหตุนี้ ดนตรีจึงกลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือหรือกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจนั่นเอง

CAFE คั่นหน้า_edited.jpg
bottom of page